task management tools คือสิ่งที่ต้องมี ไม่มีคือคนเป็น ผู้จัดการ บอบช้ำตาย


ตอนเฮียเหมขึ้นเป็นผู้จัดการ
ก็บริหารโปรเจ็ค (Project Manager) พบลูกค้า ขายโปรเจ็ค ติดต่อ supplier programmer ที่อินเดีย พบปัญหาการบริหารโปรเจ็คตรงที่ บริษัทมีหลายโปรเจ็คโยนลงมาให้ทำ แต่ละโปรเจ็คจะมี task ย่อยๆลงไป เช่น การแต่งรูปสินค้า, เขียน code, ตั้งค่าตัวเลขของส่วนประกอบต่างๆในหน้าเว็บ
ยกตัวอย่างเช่น

โปรเจ็ค
1-ย่อย-ย่อย-ย่อย
2-ย่อย-ย่อย-ย่อย
3-ย่อย-ย่อย-ย่อย
4-ย่อย-ย่อย-ย่อย
5-ย่อย-ย่อย-ย่อย

แต่ระบบกลับ monitor ไม่ได้ว่าแต่ละโปรเจ็ค ทำไปแล้วกี่ %? รายละเอียดย่อยของงานชิ้นไหนเสร็จไปแล้วบ้าง? ปัญหาอย่างเนี้ยมันแก้ได้ด้วย task management tools อย่างเช่นพวก clickup.com ซึ่งเฮียเหมเสนอเจ้าของบริษัทไป แม่งไม่เอาครับ แล้วคนเป็นผู้จัดการ จะบริหารโปรเจ็คอย่างมีประสิทธิภาพสูงได้ยังไง?
ในเมื่อมองไม่เห็นว่า มีงานทั้งหมดกี่ชิ้น แล้วคืบหน้าไปถึงไหน บริษัทแม่งโทษผู้จัดการว่าทำไม่ดี ทั้งๆที่เสนอเครื่องมือที่จะมาแก้ไขปัญหาแล้วนะ และวิธีนำเสนอก็ไม่ได้ก้าวร้าว ไม่น่าฟัง เสนอด้วยน้ำเสียงกิริยาราบเรียบ บริษัทอย่างนี้มีเยอะมากในไทย และที่มันพีคกว่านั้นคือ บริษัทนี้ไม่ใช่บริษัทคนไทย เป็นบริษัทฝรั่งยุโรปด้วย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ฝรั่งไม่ใช่พ่อเรา และฝรั่งก็ไม่ได้เจ๋งจริงทุกคน และอย่าคิดว่าบริษัทไทยไม่เป็นอย่างนี้นะครับ แม่งเพียบเลยครับที่ยังบริหารแบบนี้อยู่

ส่วนระบบราชการ? บริหารงานกันยังไง? หนักเลยคับ เสนอเป็นกระดาษ พิมพ์ เขียน ปริ้น ใส่แฟ้ม เสนอหัวหน้า นอกจากจะเปลืองทรัพยากรโลกแล้ว ยังเปลืองเวลาพิมพ์ในคอม เขียนรับทราบ ปริ้น เสนอ ระบบราชการถึงทำงานชักช้าไงครับ ถ้าเปลี่ยนระบบมาเป็น task management tools อย่างเช่นพวก clickup.com แป๊บเดียวก็รู้แล้วครับ เหลือกี่งาน ความคืบหน้าไปถึงไหน

ไหนจะระบบโทรศัพท์ภายในหน่วยงานราชการ การโทรหากันในองค์โดยใช้โทรศัพท์ภายใน(หน้าตาคล้ายโทรศัพท์บ้าน)
คือทำไม ไม่ใช้ไลน์โทรหากัน? มันตรงตัวกว่ามั้ย? ไม่เข้าใจทำไมยังมีโทรศัพท์แผนก แล้วคนรับก็ต้องผสานงาน มันทำให้งานช้าลง ควรจะลดขั้นตอนการทำงานนี้ออกไป

Comments